HR รีพอร์ต
Everything in hr job.
หมวดหมู่
Recent Post
about
Category: พัฒนาตัวเอง
-
จอห์น คอตเตอร์ เป็นคนที่ใช้ชีวิตการทำงานไปกับการดูองค์กรต่างๆ พยายามเปลี่ยนแปลงตัวเอง วันหนึ่งเขาตั้งคำถามง่ายๆ แต่ลึกซึ้ง: “ทำไมบริษัทบางแห่งเปลี่ยนแปลงได้สำเร็จ แต่อีกหลายแห่งใช้เงินไปหลายล้าน ใช้เวลาไปหลายปี แต่สุดท้ายก็ล้มเหลว?” คำตอบที่เขาได้ หลังจากศึกษาองค์กรมากกว่า 100 แห่ง กลายเป็นหนังสือที่เปลี่ยนวิธีคิดของผู้นำทั่วโลก เรื่องเล่าจากสนามรบจริง บริษัทที่ใช้เงิน 200 ล้าน แต่กลับไปเป็นเหมือนเดิม คอตเตอร์เล่าเรื่องของบริษัทแห่งหนึ่งในอเมริกา ที่ผู้บริหารระดับสูงตัดสินใจว่าต้องเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร เพื่อให้แข่งขันกับบริษัทญี่ปุ่นได้ พวกเขาจ้างที่ปรึกษาชื่อดัง ฝึกอบรมพนักงานทุกคน สร้างโครงการใหญ่โต ในช่วงแรก ทุกคนตื่นเต้น พนักงานเข้าอบรม เรียนรู้เทคนิคการทำงานใหม่ มีการประชุมใหญ่ประชุมเล็ก แต่หลังจากผ่านไป 3 ปี และใช้เงินไปกว่า 200 ล้านบาท สิ่งที่เหลืออยู่คือความเมื่อยล้า และการกลับไปทำงานแบบเดิม “เรามีวิธีทำงานใหม่เป็นร้อยวิธี แต่ไม่มีคนไหนเอาไปใช้จริงๆ” หัวหน้าฝ่ายบุคคลคนหนึ่งบอกกับคอตเตอร์ “สุดท้ายเรากลับไปเป็นเหมือนเดิม แต่เหนื่อยกว่าเดิม” บริษัทเล็กที่เปลี่ยนโลกได้ ในทางกลับกัน คอตเตอร์เล่าเรื่องของบริษัทซอฟต์แวร์เล็กๆ ในซิลิคอนวัลเลย์ ที่เจ้าของบริษัทสังเกตเห็นว่าลูกค้าเริ่มเปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีใหม่ ถ้าไม่ปรับตัว บริษัทจะตายแน่ แต่แทนที่จะรีบสั่งให้ทุกคนเปลี่ยน เขากลับเริ่มด้วยการนำข้อมูลมาให้ทีมดู แสดงให้เห็นว่าคู่แข่งทำอะไร ลูกค้าต้องการอะไร…
-
วิกฤตที่ไม่มีใครคาดคิด ลองจินตนาการว่าคุณเป็นหนึ่งในนกเพนกวินที่อาศัยอยู่บนภูเขาน้ำแข็งก้อนใหญ่กลางทะเลอันตาร์กติกา เป็นบ้านที่ฝูงชนของคุณอาศัยอยู่มาหลายร้อยปี ทุกวันเป็นวันที่เหมือนเดิม สงบสุข ปลอดภัย และมีความสุข จนกระทั่งวันหนึ่ง… “เฟรด” นกเพนกวินน้อยตัวหนึ่งที่มีนิสัยชอบสำรวจและอยากรู้อยากเห็น ได้ดำน้ำลึกลงไปใต้ภูเขาน้ำแข็งเหมือนที่เคยทำมานับครั้งไม่ถ้วน แต่คราวนี้เขากลับพบเห็นสิ่งที่น่าตกใจ – รอยแตกร้าวขนาดใหญ่ที่กำลังลุกลามผ่านใต้ท้องภูเขาน้ำแข็ง อีกไม่นาน บ้านที่พวกเขารักจะพังทลายลงสู่ก้นทะเล นี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวใน “Our Iceberg Is Melting” หนังสือที่มีชื่อเสียงโดย John P. Kotter ซึ่งใช้นิทานเรื่องง่ายๆ ของนกเพนกวินมาสอนบทเรียนที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับการจัดการความเปลี่ยนแปลงในโลกแห่งความเป็นจริง ปฏิกิริยาแรกของมนุษย์ต่อการเปลี่ยนแปลง เมื่อเฟรดกลับมาเล่าเรื่องที่เขาพบเห็นให้เพื่อนๆ ฟัง เขาก็ได้เจอกับปฏิกิริยาที่หลากหลายเหมือนกับที่เราเจอในชีวิตจริงทุกวัน: “อลิส” ผู้นำฝูงที่ชาญฉลาด เธอรู้สึกตกใจ แต่พร้อมที่จะรับฟังและหาทางแก้ไข เธอเป็นแบบอย่างของผู้นำที่ดีที่พร้อมรับมือกับความจริงที่ไม่พึงประสงค์ “หลุยส์” ผู้นำเก่าที่อนุรักษ์นิยม เขาไม่เชื่อเรื่องราวของเฟรด และคิดว่าการเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็ตามเป็นอันตราย เขาเป็นตัวแทนของคนที่ต่อต้านการเปลี่ยนแปลงด้วยความกลัว “แนนซี่” นกเพนกวินธรรมดา เธอรู้สึกกังวลและกลัว แต่พร้อมจะทำตามถ้ามีคนนำทาง เธอเป็นตัวแทนของคนส่วนใหญ่ที่ต้องการความมั่นคงและการนำทางที่ชัดเจน “ชาร์ลี” นกเพนกวินที่ชอบต่อต้าน เขาคิดว่าเฟรดพูดเกินจริงและไม่ต้องทำอะไรเลย เขาเป็นตัวแทนของคนที่ต่อต้านการเปลี่ยนแปลงเพราะความขี้เกียจหรือความไม่เข้าใจ ตัวอย่างในชีวิตจริง ลองนึกถึงเวลาที่บริษัทของคุณประกาศว่าจะเปลี่ยนระบบการทำงานจากออฟฟิศมาทำงานที่บ้าน (Work from…
-
ลองจินตนาการดูสิครับว่า หากเราย้อนเวลากลับไป 20 ปี และบอกกับผู้จัดการของบริษัทใหญ่ๆ ว่าวันหนึ่งพนักงานจะทำงานจากบ้าน ใช้โปรแกรมที่เรียกว่า Zoom ประชุมกัน และมีหุ่นยนต์ชื่อ ChatGPT ช่วยเขียนอีเมล์ให้ พวกเขาคงคิดว่าเราบ้าไปแล้วแน่ๆ แต่นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน และนี่คือเหตุผลว่าทำไม Jacob Morgan ผู้เขียนหนังสือ “The Future Leader” ถึงบอกว่าผู้นำในอนาคตต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ทันโลก การเดินทางค้นหาผู้นำยุคใหม่ Jacob Morgan ใช้เวลาหลายปีในการสัมภาษณ์ผู้บริหารจากบริษัทชั้นนำทั่วโลกกว่า 140 คน ตั้งแต่ Reed Hastings ของ Netflix ที่เปลี่ยนวิธีคนดูหนัง ไปจนถึง Marc Benioff ของ Salesforce ที่ปฏิวัติวิธีการขายของบริษัทต่างๆ สิ่งที่เขาค้นพบคือ ผู้นำที่ประสบความสำเร็จในยุคนี้ไม่ใช่คนที่มีอำนาจมากที่สุด หรือฉลาดที่สุด แต่เป็นคนที่สามารถปรับตัว เรียนรู้ และช่วยให้คนอื่นเติบโตได้ดีที่สุด 4 กรอบความคิดของผู้นำอนาคต 1. Explorer: นักสำรวจผู้กล้าเสี่ยง ผู้นำแบบ Explorer คือคนที่มีจิตใจนักผจญภัย ไม่กลัวที่จะออกจาก…
-
บทนำ: เรื่องเล่าจากโลกการทำงาน ลองนึกภาพดูสิครับ คุณเดินเข้าไปในร้านกาแฟสองร้าน ร้านแรกพนักงานยิ้มแย้ม ให้บริการอย่างเต็มใจ ทำให้คุณรู้สึกเป็นแขกที่ได้รับการต้อนรับ ส่วนร้านที่สองพนักงานหน้าบึ้ง ทำงานแบบไม่มีใจ คุณจะเลือกกลับไปร้านไหน? คำตอบคงไม่ยากเดาใช่มั้ยครับ แต่คุณเคยสงสัยมั้ยว่าทำไมพนักงานร้านแรกถึงมีความสุขกับงาน ในขณะที่ร้านที่สองไม่มี? นี่แหละครับคือหัวใจของหนังสือ “The Employee Experience: How to Attract Talent, Retain Top Performers, and Drive Results” ที่เขียนโดย Tracy Maylett และ Matthew Wride ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารคนมากว่า 20 ปี ค้นพบความจริงที่ซ่อนอยู่ ผู้เขียนทั้งสองท่านได้ทำการวิจัยข้อมูลจากพนักงานถึง 24 ล้านคำตอบจาก 70 ประเทศทั่วโลก และพบความจริงที่น่าสนใจ: บริษัทที่ให้บริการดีที่สุดมักจะมีพนักงานที่มีความสุขมากที่สุดด้วย นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญนะครับ เพราะพนักงานเป็นคนที่อยู่แถวหน้าสุด เป็นคนที่ลูกค้าเห็นหน้าเห็นตาก่อนใคร หากพวกเขามีความสุขกับงาน พวกเขาก็จะส่งผ่านความสุขนั้นไปให้ลูกค้า ทฤษฎี “EX ก่อน CX” – หลักการที่เปลี่ยนทุกสิ่ง…
-
จากหนังสือ “The Employee Experience Advantage” โดย Jacob Morgan เมื่อโลกการทำงานเปลี่ยนไป หากคุณเป็นเจ้านายหรือผู้บริหาร คุณคงเคยสงสัยว่าทำไมพนักงานรุ่นใหม่ถึงลาออกบ่อย ทำไมพวกเขาไม่พอใจแม้จะได้เงินเดือนดี หรือทำไมพนักงานเก่งๆ ถึงหนีไปทำงานที่อื่น Jacob Morgan นักเขียนและนักวิจัยชื่อดัง มีคำตอบให้เราใน “The Employee Experience Advantage” เขาบอกว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เงิน แต่อยู่ที่ “ประสบการณ์” ที่พนักงานได้รับในที่ทำงาน เรื่องราวเริ่มต้นจากการค้นพบที่น่าตกใจ: พนักงานส่วนใหญ่ไม่มีความสุขในการทำงาน สถิติบอกว่า 70% ของพนักงานทั่วโลกไม่มีความผูกพันกับงาน พวกเขาทำงานแค่เพื่อเงิน ไม่ได้ทำด้วยความรัก นี่คือจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติแนวคิดการบริหารคน สามเสาหลักของประสบการณ์พนักงาน Morgan ค้นพบว่า ประสบการณ์พนักงานที่ดีต้องยึดบนสามเสาหลัก เหมือนเก้าอี้สามขา ขาดขาใดขาหนึ่งไปไม่ได้ 1. วัฒนธรรมองค์กร (Culture): จิตวิญญาณของที่ทำงาน วัฒนธรรมองค์กรคือบรรยากาศ ค่านิยม และความรู้สึกที่พนักงานได้รับในแต่ละวัน ตัวอย่าง: Netflix และวัฒนธรรมแห่งความไว้วางใจ Netflix มีหลักการที่เรียกว่า “Freedom and…
-
วันหนึ่ง คุณมานี ผู้จัดการฝ่ายขายที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปี ได้รับมอบหมายงานใหม่ที่ดูเหมือนจะเป็น “ภารกิจเป็นไปไม่ได้” นั่นคือ ต้องทำให้ทีมขายที่มีนิสัยชอบทำงานแบบเดี่ยวๆ เปลี่ยนมาเป็นการทำงานร่วมกันแบบทีม เธอลองทุกวิธี ตั้งแต่ให้โบนัสพิเศษ จัดงานปาร์ตี้สร้างความสัมพันธ์ ไปจนถึงการขู่ว่าใครไม่ร่วมมือจะโดนตัดเงินเดือน แต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยน พอเธอหันหลังไป ทุกคนก็กลับไปทำแบบเดิม เรื่องแบบนี้คุ้นเคยไหมครับ? ไม่ว่าจะเป็นการพยายามให้ลูกน้องปฏิบัติตามนโยบายใหม่ การชักชวนคนในครอบครัวใส่ใจสุขภาพ หรือแม้แต่การเปลี่ยนนิสัยของตัวเราเอง ทำไมการเปลี่ยนพฤติกรรมถึงเป็นเรื่องยากขนาดนี้? คำตอบอยู่ในหนังสือ “Crucial Influence, Third Edition: Leadership Skills to Create Lasting Behavior Change” ที่เขียนโดย Joseph Grenny, Kerry Patterson และคณะ ซึ่งเผยให้เห็นว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่คนที่เราพยายามเปลี่ยน แต่อยู่ที่วิธีคิดของเราเอง ทำไมเราล้มเหลวกันทั้งโลก ผู้เขียนเริ่มต้นด้วยสถิติที่น่าสะเทือนใจ: การพยายามเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม 8 ใน 8 ครั้งจะล้มเหลว ส่วนใหญ่ไม่ได้ผลอะไรเลย นอกจากทำให้เสียทรัพยากรและสร้างความท้อแท้ให้กับองค์กร แต่ทำไมถึงเป็นแบบนี้? คำตอบอยู่ที่ความผิดพลาดพื้นฐานที่เราทำกันเป็นประจำ Joseph…
-
เมื่อความเครียดกลายเป็นเรื่องธรรมดา ลองนึกดูสิครับ เมื่อเช้านี้คุณตื่นมาแล้วเครียดเพราะเพื่อนไม่ตอบไลน์ เที่ยงแล้วหงุดหงิดเพราะคอลลีกทำงานไม่เสร็จตามกำหนด เย็นแล้วโมโหเพราะแฟนมาสายนัดเหมือนเดิม กลางคืนแล้วก็นอนไม่หลับเพราะยังคิดถึงคำพูดของคนที่วิจารณ์การตัดสินใจของเรา เป็นแบบนี้ทุกวันไหมครับ? เหนื่อยไหม? อยากมีชีวิตที่สงบสุขมากกว่านี้ไหม? Mel Robbins นักเขียนชื่อดังและพ่อค้าแม่ค้าที่มีผู้ติดตามหลายล้านคน เธอก็เคยเป็นแบบนี้มาก่อน จนวันหนึ่งเธอค้นพบสิ่งที่เรียกว่า “The Let Them Theory” หรือ “ทฤษฎีปล่อยให้เขา” ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอและคนนับล้านทั่วโลก เริ่มต้นด้วยการตื่นรู้ เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ Mel รู้สึกเหนื่อยหน่ายกับการพยายามควบคุมทุกอย่างในชีวิต เธอพยายามเปลี่ยนใจสามี พยายามให้ลูกๆ ทำตามที่เธอคิด พยายามให้เพื่อนร่วมงานเห็นด้วยกับความคิดของเธอ แต่ยิ่งพยายาม ยิ่งเครียด ยิ่งรู้สึกหงุดหงิด และที่สำคัญ ไม่มีใครเปลี่ยนตามที่เธอต้องการเลย จนวันหนึ่ง เธอมีการตื่นรู้ที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง: เราควบคุมได้เพียงตัวเราเอง เราควบคุมคนอื่นไม่ได้ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของ “ทฤษฎีปล่อยเขา” ทฤษฎีปล่อยเขา คืออะไร? หลักการง่ายๆ แต่ทรงพลัง: ปล่อยให้คนอื่นเป็นตัวของตัวเอง แทนที่จะพยายามเปลี่ยนแปลง ควบคุม หรือบังคับให้คนอื่นทำตามที่เราต้องการ เราให้เลือกที่จะ “ปล่อยเขา” ทำสิ่งที่เขาต้องการทำ ฟังดูง่ายใช่ไหม? แต่จริงๆ แล้วมันยากมาก เพราะเราเคยชินกับการต้องการควบคุมทุกอย่าง…
-
เรื่องเล่าที่ซ่อนด้วยปัญญา ในโลกของเซน มีเรื่องเล่ามากมายที่ดูเหมือนธรรมดา แต่ซ่อนบทเรียนลึกซึ้งไว้ภายใน หนึ่งในเรื่องเล่าที่มีชื่อเสียงและน่าสนใจที่สุดคือเรื่องของสุนัขจิ้งจอกที่หลอกพระ หรือที่เรียกกันว่า “Wild Fox Koan” เรื่องนี้ไม่ใช่แค่นิทานธรรมดา แต่เป็นบทเรียนเกี่ยวกับกฎแห่งเหตุผล ความรับผิดชอบ และการมองโลกอย่างชาญฉลาด มาดูกันว่าเรื่องนี้สอนอะไรเราบ้าง ชายแก่ปริศนาและคำถามที่เปลี่ยนชะตา การเริ่มต้น เมื่อหลายร้อยปีก่อน ในสมัยที่พระไป๋จั่ง (Baizhang) เป็นเจ้าอาวาสวัดบนภูเขา มีชายแก่คนหนึ่งมาฟังเทศนาของท่านเป็นประจำ ไม่มีใครสังเกตเห็นเขา เพราะเขาจะมาแอบฟังและจากไปอย่างเงียบๆ ทุกครั้ง แต่วันหนึ่ง หลังจากที่พระสงฆ์ทุกคนกลับไปแล้ว ชายแก่คนนี้ยังไม่ไป พระไป๋จั่งจึงถามว่า “ท่านเป็นใคร?” เรื่องราวในอดีต ชายแก่เล่าเรื่องราวที่น่าตกใจ เขาบอกว่า “ข้าไม่ใช่มนุษย์ ข้าเคยเป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้เมื่อครั้งพระพุทธเจ้ากัสสปะยังประทับอยู่ วันหนึ่งมีลูกศิษย์ถามข้าว่า ‘ผู้ที่ตรัสรู้แล้วจะติดอยู่ในกฎแห่งเหตุผลหรือไม่?’ ข้าตอบไปว่า ‘ผู้ที่ตรัสรู้แล้วไม่ติดอยู่ในกฎแห่งเหตุผล’” “เพราะคำตอบนั้น” เขาต่อ “ข้าจึงต้องเกิดเป็นสุนัขจิ้งจอกมา 500 ชาติ และยังคงเป็นสุนัขจิ้งจอกอยู่ ท่านจะช่วยข้าด้วยปัญญาเซนของท่านได้ไหม?” คำถามเดิม คำตอบใหม่ ชายแก่ถามคำถามเดิม: “ผู้ที่ตรัสรู้แล้วติดอยู่ในกฎแห่งเหตุผลหรือไม่?” พระไป๋จั่งตอบว่า: “ผู้ที่ตรัสรู้แล้วไม่มองข้ามกฎแห่งเหตุผล” พอได้ยินคำตอบนี้ ชายแก่ก้มกราบขอบคุณแล้วหายไป วันรุ่งขึ้น พระไป๋จั่งพาพระสงฆ์ไปหลังภูเขา…
-
ครั้งหนึ่งมีแมวตัวหนึ่งนั่งมองดวงจันทร์ในคืนที่เงียบสงบ มันไม่ได้พยายามจับดวงจันทร์ ไม่ได้กังวลว่าทำไมดวงจันทร์ถึงอยู่สูงเกินกว่าจะเอื้อมถึง แมวแค่นั่งมอง… และในความเรียบง่ายนั้นเอง มันพบความสงบที่มนุษย์หลายคนใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อค้นหา นี่คือแก่นแท้ของหนังสือ “The Cat and The Moon – 33 Zen Stories” โดย Kai Tsukimi หนังสือเล่มเล็กที่บรรจุปัญญาใหญ่หลวง พร้อมเปลี่ยนวิธีที่เรามองโลกและใช้ชีวิต ในโลกที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย เราต้องการอะไร? ลองนึกภาพดูสิ วันนี้คุณตื่นขึ้นมาแล้วสมองเริ่มวิ่งทันที งานที่ต้องทำ ข้อความที่ต้องตอบ ปัญหาที่ต้องแก้ แล้วก็ความกังวลเรื่องอนาคตที่ยังไม่มาถึง หัวใจเต้นเร็ว หายใจสั้น รู้สึกเหมือนกำลังจมอยู่ในกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว คุณไม่ได้เป็นคนเดียวที่รู้สึกแบบนี้ ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารไหลเข้ามาไม่รู้จบ ที่เราต้องตอบสนองทุกอย่างแบบทันที ที่ความเร็วกลายเป็นสิ่งสำคัญที่สุด หลายคนรู้สึกว่าชีวิตกำลังเลื่อนหลุดมือ Kai Tsukimi ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้เข้าใจดีถึงความรู้สึกนั้น เขาจึงสร้างสรรค์เรื่องสั้น 33 เรื่องที่เหมือนกับถ้วยชาอุ่นๆ ในวันที่หนาวเหน็บ เรื่องเล่าที่อ่อนโยนแต่แฝงด้วยปัญญา พร้อมช่วยให้เราหยุดพัก หายใจ และค้นหาความสงบที่แท้จริง ปรัชญาเซนคืออะไร และทำไมมันถึงเข้าใจง่าย? หลายคนอาจคิดว่าปรัชญาเซนเป็นเรื่องยากหรือลึกลับ แต่ความจริงแล้ว เซนเป็นเรื่องที่เรียบง่ายมาก มันเป็นการเรียนรู้ที่จะอยู่กับปัจจุบันขณะ การยอมรับสิ่งที่เป็น…
-
เมื่อจิตใจต้องการการพักผ่อน ในยุคที่ทุกคนต้องวิ่งไล่ตามความเร็วของโลก มีใครบ้างที่ไม่เคยรู้สึกว่าสมองตัวเองหยุดคิดไม่ได้ เหมือนมีเครื่องจักรที่ไม่มีปุ่มปิดทำงานอยู่ในหัวตลอดเวลา บางครั้งเราคิดมากจนนอนไม่หลับ กังวลเรื่องงาน เรื่องครอบครัว หรือแม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ผ่านไปแล้ว หากคุณกำลังรู้สึกแบบนั้น หนังสือ “A Cup of Zen: 21 Short Stories to Calm the Mind, Stop Overthinking, and Find Inner Peace” ของ Kai Tsukimi อาจเป็นสิ่งที่คุณกำลังมองหาอยู่ ผู้เขียนคือใคร และทำไมถึงเขียนหนังสือเล่มนี้ Kai Tsukimi เป็นนักเขียนที่สร้างซีรีส์ “The Zen Storyteller” ด้วยความเชื่อว่าเรื่องเล่าธรรมดาๆ สามารถเปลี่ยนแปลงมุมมองของเราได้ เขาผสมผสานความเรียบง่ายของปรัชญาเซนเข้ากับพลังของการเล่าเรื่อง สร้างนิทานสั้นๆ ที่ทำให้เราคิดและเปลี่ยนวิธีมองโลกโดยไม่รู้ตัว หนังสือ “A Cup of Zen” ได้รับความนิยมมากใน Amazon หมวด Zen…