จากหนังสือ “The Employee Experience Advantage” โดย Jacob Morgan
เมื่อโลกการทำงานเปลี่ยนไป
หากคุณเป็นเจ้านายหรือผู้บริหาร คุณคงเคยสงสัยว่าทำไมพนักงานรุ่นใหม่ถึงลาออกบ่อย ทำไมพวกเขาไม่พอใจแม้จะได้เงินเดือนดี หรือทำไมพนักงานเก่งๆ ถึงหนีไปทำงานที่อื่น
Jacob Morgan นักเขียนและนักวิจัยชื่อดัง มีคำตอบให้เราใน “The Employee Experience Advantage” เขาบอกว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เงิน แต่อยู่ที่ “ประสบการณ์” ที่พนักงานได้รับในที่ทำงาน
เรื่องราวเริ่มต้นจากการค้นพบที่น่าตกใจ: พนักงานส่วนใหญ่ไม่มีความสุขในการทำงาน สถิติบอกว่า 70% ของพนักงานทั่วโลกไม่มีความผูกพันกับงาน พวกเขาทำงานแค่เพื่อเงิน ไม่ได้ทำด้วยความรัก
นี่คือจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติแนวคิดการบริหารคน
สามเสาหลักของประสบการณ์พนักงาน
Morgan ค้นพบว่า ประสบการณ์พนักงานที่ดีต้องยึดบนสามเสาหลัก เหมือนเก้าอี้สามขา ขาดขาใดขาหนึ่งไปไม่ได้
1. วัฒนธรรมองค์กร (Culture): จิตวิญญาณของที่ทำงาน
วัฒนธรรมองค์กรคือบรรยากาศ ค่านิยม และความรู้สึกที่พนักงานได้รับในแต่ละวัน
ตัวอย่าง: Netflix และวัฒนธรรมแห่งความไว้วางใจ
Netflix มีหลักการที่เรียกว่า “Freedom and Responsibility” พนักงานมีอิสระในการตัดสินใจ แต่ต้องรับผิดชอบผลลัพธ์
บริษัทไม่มีวันลาป่วย ไม่มีวันหยุดจำกัด พนักงานสามารถลาได้เมื่อต้องการ เพราะบริษัทเชื่อใจว่าพวกเขาจะทำงานให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี
Reed Hastings CEO ของ Netflix เคยกล่าวว่า “เราไม่ได้จ้างเด็ก เราจ้างผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะ”
ผลลัพธ์? Netflix กลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่คนอยากทำงานด้วยมากที่สุดในโลก
2. เทคโนโลยี (Technology): เครื่องมือที่ช่วยให้ชีวิทง่ายขึ้น
เทคโนโลยีไม่ใช่แค่คอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ แต่เป็นทุกสิ่งที่ช่วยให้พนักงานทำงานได้สะดวกและมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่าง: Slack และการปฏิวัติการสื่อสาร
ก่อนหน้านี้ การสื่อสารในออฟฟิศต้องพึ่งอีเมลและการประชุม ทำให้เสียเวลาและไม่ทันสมัย
Slack สร้างแพลตฟอร์มที่ทำให้การสื่อสารเป็นเรื่องง่าย ทีมงานสามารถคุยกันแบบเรียลไทม์ แชร์ไฟล์ และทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น
ผลคือ พนักงานทำงานได้เร็วขึ้น มีความสุขมากขึ้น และรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของทีม
ตัวอย่าง: Zoom และการทำงานจากที่ไหนก็ได้
COVID-19 ทำให้เราต้องทำงานจากบ้าน Zoom กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้คนทำงานต่อได้
บริษัทที่มี Zoom หรือเทคโนโลยีคล้ายๆ สามารถปรับตัวได้เร็ว พนักงานยังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะอยู่ที่บ้าน
3. สภาพแวดล้อมทางกายภาพ (Physical Environment): พื้นที่ที่สร้างแรงบันดาลใจ
สภาพแวดล้อมทางกายภาพไม่ได้หมายถึงแค่การมีสำนักงานสวย แต่รวมถึงการออกแบบที่ส่งเสริมการทำงานและความเป็นอยู่ที่ดี
ตัวอย่าง: Google และออฟฟิศในฝัน
Google มีสำนักงานที่ดูไม่เหมือนออฟฟิศปกติ มีสวน มีที่เล่นเกม มีห้องนอน มีร้านอาหารฟรี
แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีไว้เพื่อโชว์ มันมีวัตถุประสงค์ชัดเจน:
- พื้นที่เปิดกว้างส่งเสริมการสร้างสรรค์
- ห้องสีสันสดใสช่วยกระตุ้นความคิด
- พื้นที่พักผ่อนช่วยลดความเครียด
- อาหารฟรีทำให้พนักงานไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นฐาน
ตัวอย่าง: Airbnb และการสร้างความรู้สึกเป็นบ้าน
Airbnb ออกแบบสำนักงานให้รู้สึกเหมือนบ้าน แต่ละห้องประชุมตกแต่งเลียนแบบที่พักจริงๆ ในแพลตฟอร์ม
พนักงานรู้สึกผ่อนคลาย เหมือนกำลังทำงานที่บ้าน ไม่ใช่ในออฟฟิศที่เครียด
16 หลักการสำคัญของประสบการณ์พนักงาน
Morgan เสนอหลักการที่บริษัทประสบความสำเร็จใช้ร่วมกัน:
กลุมที่ 1: สร้างความหมาย
- ทำให้งานมีความหมาย – พนักงานต้องรู้ว่าทำไมต้องทำงานนี้
- เชื่อมโยงงานกับภารกิจใหญ่ – แต่ละงานเล็กเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงโลก
ตัวอย่าง: พนักงานรักษาความสะอาดใน Disney ไม่ใช่แค่คนทำความสะอาด พวกเขาคือ “ผู้สร้างความมหัศจรรย์” ที่ทำให้เด็กๆ มีความสุข
กลุม 2: สร้างความไว้วางใจ
- โปร่งใสในการสื่อสาร – ไม่ปิดบังข้อมูลจากพนักงาน
- ยอมรับความผิดพลาด – ให้โอกาสเรียนรู้จากข้อผิดพลาด
ตัวอย่าง: Haier กลุ่มบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าจีน เปิดข้อมูลการเงินให้พนักงานทุกคนดู รวมถึงเงินเดือนของผู้บริหาร
กลุม 3: ส่งเสริมการเรียนรู้
- สนับสนุนการพัฒนาตนเอง – ให้เวลาและงบประมาณในการเรียนรู้
- สร้างโอกาสในการเติบโต – เปิดเส้นทางก้าวหน้าในหน้าที่
ตัวอย่าง: 3M ให้พนักงานใช้ 15% ของเวลาทำงานไปกับโปรเจกต์ส่วนตัว Post-it Note เกิดจากนโยบายนี้
กลุม 4: ส่งเสริมความเป็นตัวตน
- ยอมรับความแตกต่าง – ให้พนักงานเป็นตัวเองได้
- สนับสนุนความสมดุลชีวิต – งานและชีวิตส่วนตัวต้องสมดุล
เครื่องมือวัดประสบการณ์พนักงาน
Morgan เสนอ “Employee Experience Score” (EXS) เครื่องมือวัดความสำเร็จ:
สูตร: EXS = (วัฒนธรรม + เทคโนโลยี + สภาพแวดล้อม) / 3
แต่ละด้านให้คะแนน 1-10 บริษัทที่ได้คะแนนรวม 8 ขึ้นไปจะมีประสิทธิภาพดีกว่าคู่แข่งอย่างชัดเจน
บริษัทต้นแบบและบทเรียน
Apple: ความเรียบง่ายที่ลึกซึ้ง
Apple ออกแบบทุกอย่างให้เรียบง่าย ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ไปจนถึงสภาพแวดล้อมการทำงาน พนักงานไม่ต้องงุนงงกับระบบซับซ้อน สามารถมุ่งความสนใจไปที่การสร้างสรรค์
Tesla: วิสัยทัศน์ที่ชัดเจน
Elon Musk ให้วิสัยทัศน์ที่ชัดเจน: “เร่งการเปลี่ยนผ่านของโลกสู่พลังงานยั่งยืน” พนักงานรู้ว่าการทำงานที่ Tesla คือการช่วยโลก ไม่ใช่แค่การทำรถ
Salesforce: ความเสมอภาค
Marc Benioff CEO ของ Salesforce ตรวจสอบเงินเดือนพนักงานทั้งบริษัท เพื่อให้แน่ใจว่าผู้หญิงและผู้ชายได้รับค่าตอบแทนเท่าเทียมกัน เมื่อพบความไม่เท่าเทียม บริษัทจ่ายเงินเพิ่มทันที
อุปสรรคและการแก้ไข
อุปสรรค 1: ผู้บริหารยังคิดแบบเก่า
แก้ไข: ให้การศึกษาและแสดงผลลัพธ์ที่ชัดเจน บริษัทที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์พนักงานมีผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นสูงกว่า 40%
อุปสรรค 2: งบประมาณจำกัด
แก้ไข: การสร้างประสบการณ์ที่ดีไม่ต้องใช้เงินมาก การเปลี่ยนนโยบายหรือวิธีการสื่อสาร อาจจะมีผลกระทบมากกว่าการลงทุนด้านฮาร์ดแวร์
อุปสรรค 3: ความต้านทานจากพนักงานเก่า
แก้ไข: เริ่มจากการให้พนักงานเก่ามีส่วนร่วมในการออกแบบการเปลี่ยนแปลง ทำให้พวกเขารู้สึกเป็นเจ้าของ
ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
บริษัทที่ทำได้ดีจะเห็นผล:
ด้านพนักงาน:
- ความผูกพันเพิ่มขึ้น 3 เท่า
- อัตราการลาออกลดลง 40%
- ความพึงพอใจเพิ่มขึ้น 25%
ด้านธุรกิจ:
- รายได้เพิ่มขึ้น 4 เท่า
- ผลกำไรสูงกว่าคู่แข่ง 2 เท่า
- นวัตกรรมเพิ่มขึ้น 3 เท่า
บทสรุป: อนาคตของการทำงาน
Jacob Morgan สรุปว่า “อนาคตของการทำงานไม่ใช่เรื่องของเทคโนโลジี แต่เป็นเรื่องของมนุษย์”
ในยุคที่เทคโนโลยีพัฒนาไป AI และหุ่นยนต์จะเข้ามาแทนที่งานหลายอย่าง แต่สิ่งที่เครื่องจักรทำไม่ได้คือการสร้าง “ประสบการณ์” ที่มีความหมายให้กับมนุษย์
บริษัทที่จะประสบความสำเร็จในอนาคต คือบริษัทที่เข้าใจว่าพนักงานไม่ใช่แค่ทรัพยากร แต่เป็นมนุษย์ที่มีความฝัน ความปรารถนา และต้องการความหมายในชีวิต
การสร้างประสบการณ์พนักงานที่ดีไม่ใช่เรื่องของการใช้เงิน แต่เป็นเรื่องของการใส่ใจ การเข้าใจ และการให้คุณค่าแก่มนุษย์คนหนึ่งที่มาทำงานให้เรา
เมื่อเราดูแลพนักงานอย่างแท้จริง พวกเขาจะดูแลลูกค้า ดูแลธุรกิจ และร่วมสร้างอนาคตที่ดีกว่าเดิม
นี่คือบทเรียนสำคัญจาก “The Employee Experience Advantage” – การลงทุนในคน คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด
#hrรีพอร์ต
Leave a comment