มีชายคนหนึ่งชื่อ Brian Tracy ที่เคยล้มเหลวในชีวิตมากมาย เขาเรียนหนังสือไม่จบ ทำงานอะไรก็ไม่ได้เรื่อง เงินในกระเป๋าแทบจะไม่มี แต่แล้ววันหนึ่ง เขาได้ค้นพบสิ่งที่เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลกกาล นั่นคือ “พลังแห่งการควบคุมตัวเอง”

วันนี้ Brian Tracy กลายเป็นวิทยากรชื่อดังระดับโลก เขียนหนังสือขายดีกว่า 70 เล่ม และมีรายได้หลายล้านดอลลาร์ต่อปี เขาเล่าเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงนี้ไว้ในหนังสือ “No Excuses!: The Power of Self-Discipline” ซึ่งจะพาเราไปรู้จักกับความลับของการควบคุมตัวเอง

ทำไมการควบคุมตัวเองถึงสำคัญ?

Tracy เล่าให้ฟังว่า ในโลกนี้มีคน 2 แบบ คือคนที่ควบคุมตัวเองได้ กับคนที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ คนแบบแรกจะได้ชีวิตที่เขาต้องการ ส่วนคนแบบหลังจะได้ชีวิตที่เหลือเฟือจากคนอื่น

เขายกตัวอย่างเรื่องง่ายๆ เช่น การตื่นเช้า คนที่ควบคุมตัวเองได้จะตื่นตามเวลาที่กำหนดไว้ เขาจึงมีเวลาออกกำลังกาย อ่านหนังสือ หรือวางแผนวันใหม่ ส่วนคนที่ควบคุมตัวเองไม่ได้จะกดสนูซนาฬิกาปลุก 5-6 ครั้ง ตื่นขึ้นมาก็รีบวิ่งไปทำงาน เริ่มวันใหม่ด้วยความเครียดและเร่งรีบ

หรือเรื่องการเงิน คนที่ควบคุมตัวเองได้จะออมเงินเป็นประจำ ไม่ซื้อของที่ไม่จำเป็น ส่วนคนที่ควบคุมตัวเองไม่ได้จะใช้จ่ายตามอารมณ์ ซื้อของที่เห็นแล้วอยากได้ เวลาสิ้นเดือนก็เหลือเงินน้อยนิด

กล้ามเนื้อแห่งความสำเร็จ

Tracy อธิบายว่าการควบคุมตันเองเหมือนกับกล้ามเนื้อ ยิ่งใช้บ่อยก็จะยิ่งแข็งแรง ยิ่งไม่ใช้ก็จะยิ่งอ่อนแอ

เขาเล่าถึงเพื่อนคนหนึ่งที่เคยอ้วนมาก น้ำหนัก 120 กิโลกรม วันหนึ่งเพื่อนคนนี้ตัดสินใจออกกำลังกาย เริ่มแรกวิ่งได้แค่ 100 เมตรก็หอบ แต่เขาไม่ยอมแพ้ วิ่งทุกวันเพิ่มระยะทางขึ้นเรื่อยๆ

หลังจาก 6 เดือน เขาสามารถวิ่งได้ 5 กิโลเมตรโดยไม่หอบ น้ำหนักลดไป 30 กิโลกรม และที่สำคัญกว่านั้นคือเขาเปลี่ยนเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองมากขึ้น ทำงานได้ดีขึ้น และมีความสุขกับชีวิตมากขึ้น

เหตุผลก็คือ เมื่อเขาสามารถควบคุมตัวเองในเรื่องการออกกำลังกายได้ ความสามารถในการควบคุมตัวเองนี้ก็แผ่ขยายไปยังด้านอื่นๆ ของชีวิตด้วย

4 เสาหลักแห่งการควบคุมตัวเอง

Tracy แบ่งการควบคุมตัวเองออกเป็น 4 เสาหลัก เหมือนบ้านที่ต้องมี 4 เสาถึงจะมั่นคง

เสาที่ 1: การควบคุมตัวเองต่อเป้าหมาย

เขาเล่าเรื่องของนักบินเฮลิคอปเตอร์ที่บินไปส่งผู้บาดเจ็บในป่าลึก นักบินคนนี้บอกว่า “ถ้าเรายิงปืนใส่ป่าโดยไม่มีเป้า เราจะไม่เคยโดนอะไรเลย แต่ถ้าเรามีเป้าที่ชัดเจน แม้ยิงผิด เราก็จะยิงใกล้เป้ามากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็โดนเป้า”

การตั้งเป้าหมายก็เหมือนกัน ถ้าเราไม่รู้ว่าต้องการอะไร เราก็จะเดินไปเรื่อยๆ โดยไม่มีทิศทาง แต่ถ้าเรามีเป้าหมายชัดเจน เราก็จะค่อยๆ เดินเข้าใกล้มันมากขึ้น

Tracy แนะนำให้เขียนเป้าหมายออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร อ่านทุกวันตอนเช้า และถามตัวเองว่า “วันนี้ฉันจะทำอะไรเพื่อเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้น?”

เสาที่ 2: การควบคุมตัวเองต่อเวลา

“เวลาคือชีวิต” Tracy กล่าว “ถ้าเราเสียเงิน เราหาเงินกลับคืนได้ แต่ถ้าเราเสียเวลา เราหาเวลากลับคืนไม่ได้”

เขายกตัวอย่างคนที่ประสบความสำเร็จจะมีสมุดจดรายการสิ่งที่ต้องทำ (To-Do List) และจะเรียงลำดับความสำคัญ ทำงานสำคัญก่อน งานไม่สำคัญทีหลัง

แต่คนที่ควบคุมตัวเองไม่ได้จะทำงานง่ายๆ ก่อน เพราะทำเสร็จแล้วรู้สึกดี แต่พอถึงเวลา งานสำคัญก็ยังค้างอยู่ ต้องรีบทำในเวลาไม่เพียงพอ ผลงานจึงออกมาไม่ดี

Tracy สอนเทคนิค “กินกบตัวใหญ่ก่อน” คือให้ทำงานที่ยากที่สุดหรือสำคัญที่สุดก่อนเป็นอันดับแรกในแต่ละวัน เพราะตอนเช้าสมองยังสดใส มีพลังมากที่สุด

เสาที่ 3: การควบคุมตัวเองต่อการเงิน

Tracy เล่าว่าเขาเคยเป็นหนี้เกือบล้านบาท เพราะใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ซื้อของที่ไม่จำเป็น ต่อหนี้บัตรเครดิต วันหนึ่งเขาตัดสินใจหยุดพฤติกรรมนี้

เขาเริ่มจากการจดบัญชีรายรับรายจ่าย พบว่าเงินส่วนใหญ่หายไปกับค่ากาแฟ ค่าอาหาร และของเล่นเทคโนโลยี

เขาเปลี่ยนพฤติกรรมโดยการ:

  • ชงกาแฟดื่มเอง แทนการซื้อกาแฟร้าน
  • ทำข้าวกินเอง แทนการสั่งอาหารเดลิเวอรี่
  • ใช้โทรศัพท์เครื่องเก่าต่อ แทนการเปลี่ยนเครื่องใหม่ทุกปี
  • ออมเงิน 20% ของเงินเดือนทุกเดือน

ภายใน 3 ปี เขาใช้หนี้หมดและมีเงินออมพอสมควร ชีวิตก็เปลี่ยนจากการเป็นทาสของหนี้สิน กลายเป็นเจ้าของเงิน

เสาที่ 4: การควบคุมตัวเองต่อสุขภาพ

“ถ้าเราไม่มีสุขภาพดี เราก็ไม่มีอะไรเลย” Tracy กล่าว

เขาเล่าถึงเพื่อนผู้บริหารคนหนึ่งที่ทำงานหนักมาก กินอาหารไม่เป็นเวลา ไม่ออกกำลังกาย นอนน้อย ผลคือมีโรคความดันสูง เบาหวาน และโรคหัวใจ

วันหนึ่งแพทย์เตือนว่าถ้ายังใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไป อาจเสียชีวิตได้ เพื่อนคนนี้จึงตัดสินใจเปลี่ยนแปลง:

  • ตื่นเช้าออกกำลังกาย 30 นาทีทุกวัน
  • กินผักผลไม้เพิ่มขึ้น ลดอาหารจานด่วน
  • นอนให้ได้ 7-8 ชั่วโมงทุกคืน
  • หาเวลาผ่อนคลาย ไม่ทำงานตลอดเวลา

ผลคือหลังจาก 1 ปี สุขภาพดีขึ้นมาก น้ำหนักลด ความดันเลือดปกติ และที่น่าแปลกคือผลงานดีขึ้นด้วย เพราะร่างกายแข็งแรง สมองก็ทำงานได้ดีขึ้น

กฎ 80/20 ที่เปลี่ยนชีวิต

Tracy แนะนำกฎที่เรียกว่า “Pareto Principle” หรือกฎ 80/20 ที่ว่า 20% ของสิ่งที่เราทำจะให้ผลลัพธ์ 80%

เขายกตัวอย่าง:

  • 20% ของลูกค้าจะให้รายได้ 80% ของธุรกิจ
  • 20% ของเสื้อผ้าในตู้เสื้อผ้า เราจะใส่ 80% ของเวลา
  • 20% ของงานที่เราทำจะให้ผลลัพธ์ 80% ของความสำเร็จ

ดังนั้นเราต้องหาว่าอะไรคือ 20% นั้น แล้วทำมันให้ดีที่สุด

Tracy เล่าถึงนักขายคนหนึ่งที่ทำยอดขายไม่ได้เรื่อง วันหนึ่งเขาวิเคราะห์งานของตัวเอง พบว่าเขาใช้เวลา:

  • 40% กับการทำเอกสาร
  • 30% กับการประชุม
  • 20% กับการพบลูกค้า
  • 10% อื่นๆ

แต่เมื่อวิเคราะห์ผลลัพธ์ พบว่า 80% ของยอดขายมาจากการพบลูกค้า

เขาจึงเปลี่ยนสัดส่วนเวลา:

  • 60% พบลูกค้า
  • 20% ทำเอกสาร (ทำแค่ที่จำเป็น)
  • 15% ประชุม (เข้าแค่ประชุมสำคัญ)
  • 5% อื่นๆ

ผลคือยอดขายเพิ่มขึ้น 3 เท่าภายใน 6 เดือน

เทคนิคการฝึกฝนการควบคุมตัวเอง

เริ่มจากสิ่งเล็กๆ

Tracy แนะนำให้เริ่มจากสิ่งง่ายๆ ก่อน เช่น:

  • ทำที่นอนทุกเช้า
  • แปรงฟันก่อนนอน
  • กินผลไม้ 1 ผลทุกวัน
  • เดิน 10 นาทีหลังอาหารเย็น

เหตุผลก็คือ เมื่อเราทำสิ่งเล็กๆ สำเร็จ สมองจะสร้างสารเคมีที่ทำให้รู้สึกดี เราจึงอยากทำต่อ และค่อยๆ เพิ่มความยากขึ้นเรื่อยๆ

สร้างนิสัยแทนการพึ่งแรงใจ

Tracy เล่าว่าแรงใจมันมาและไป แต่นิสัยจะอยู่กับเราไปตลอด

เขายกตัวอย่างการแปรงฟัน เราไม่ได้ต้องรอแรงใจในการแปรงฟัน เราทำเพราะมันกลายเป็นนิสัยไปแล้ว ทำโดยอัตโนมัติ

การออกกำลังกายก็ทำได้เหมือนกัน ถ้าเราฝึกไป 21-66 วัน มันจะกลายเป็นนิสัย เราจะรู้สึกแปลกๆ ถ้าไม่ได้ออกกำลังกายในวันไหน

หาเพื่อนร่วมทาง

Tracy เล่าว่าการมีเพื่อนที่คอยเตือนใจและให้กำลังใจสำคัญมาก

เขายกตัวอย่างคนที่ต้องการลดน้ำหนัก ถ้าไปคนเดียวอาจหยุดชะงักเมื่อเจอปัญหา แต่ถ้ามีเพื่อนไปด้วย จะคอยเตือนกัน ให้กำลังใจกัน และแข่งขันกันในทางที่ดี

ยอมรับความล้มเหลว แต่อย่ายอมแพ้

Tracy กล่าวว่า “การล้มเหลวเป็นเรื่องปกติ แต่การยอมแพ้เป็นทางเลือก”

เขาเล่าว่าตัวเขาเองเคยล้มเหลวในการควบคุมตัวเองหลายครั้ง บางทีก็กลับไปกินของหวานเยอะ บางทีก็ไม่ออกกำลังกายเป็นอาทิตย์ บางทีก็ใช้จ่ายเกินงบอีก

แต่เขาไม่ได้ยอมแพ้ เขาถือว่าความล้มเหลวเป็นบทเรียน แล้วเริ่มใหม่ และครั้งต่อไปก็จะฉลาดขึ้น รู้ว่าต้องระวังอะไร ต้องเตรียมตัวอย่างไร

ศัตรูตัวร้าย คือ ข้อแก้ตัว

Tracy เตือนว่าศัตรูตัวฉกาจของการควบคุมตัวเองคือ “ข้อแก้ตัว”

เขายกตัวอย่างข้อแก้ตัวที่เราคุ้นเคย:

  • “ฉันไม่มีเวลา”
  • “ฉันไม่มีเงิน”
  • “ฉันไม่มีพรสวรรค์”
  • “ฉันแก่เกินไปแล้ว”
  • “ฉันยังเด็กเกินไป”
  • “ฉันไม่ได้เรียนสูง”
  • “ครอบครัวฉันไม่สนับสนุน”

แต่ Tracy บอกว่าคนที่ประสบความสำเร็จจะไม่หาข้อแก้ตัว แต่จะหาทางแก้ปัญหา

เขายกตัวอย่างผู้หญิงคนหนึ่งที่มีลูก 3 คน สามีทิ้ง ต้องทำงาน 2 ที่ เธอจึงไม่มีเวลาเรียนต่อปริญญาโท

แต่แทนที่จะบ่นว่า “ไม่มีเวลา” เธอกลับหาทางแก้ไข:

  • ฟังบรรยายผ่านพอดแคสต์ตอนขับรถไปทำงาน
  • อ่านหนังสือตอนพักเที่ยงและก่อนนอน
  • ใช้เวลาที่ลูกๆ นอนหลับมาทำการบ้าน
  • หาเพื่อนบ้านดูลูกให้ตอนไปสอบ

ผลคือเธอจบปริญญาโทได้ภายใน 3 ปี ได้เลื่อนตำแหน่ง เงินเดือนเพิ่มขึ้น 2 เท่า

การเปรียบเทียบที่น่าคิด

Tracy เปรียบการควบคุมตัวเองกับการดูแลสวน

ถ้าเราไม่ดูแลสวน วัชพืชจะขึ้นเองโดยอัตโนมัติ มันไม่ต้องปลูก ไม่ต้องรดน้ำ ไม่ต้องใส่ปุ๋ย แต่มันจะขึ้นได้เอง และขึ้นเร็วมาก

นิสัยเลวก็เหมือนวัชพืช เราไม่ต้องฝึกให้เป็นคนขี้เกียจ เราไม่ต้องฝึกให้ชอบกิน ของหวาน เราไม่ต้องฝึกให้ชอบดูทีวีเปล่าๆ มันเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ

แต่ดอกไม้และผลไม้ต้องปลูก ต้องดูแล ต้องรดน้ำ ต้องใส่ปุ๋ย ต้องตัดแต่งกิ่งใบ

นิสัยดีก็เหมือนดอกไม้ เราต้องฝึกให้เป็นคนขยัน เราต้องฝึกให้กินอาหารมีประโยชน์ เราต้องฝึกให้ชอบอ่านหนังสือ เราต้องใช้ความพยายามและความอดทน

แต่เมื่อดูแลไปสักพัก สวนจะสวยงาม ให้ผลไม้หวานอร่อย และทำให้เรามีความสุข

ชีวิตเราก็เหมือนกัน ถ้าเราไม่ควบคุมตัวเอง นิสัยเลวจะเข้ามาครอบงำ แต่ถ้าเราใช้ความพยายามควบคุมตัวเอง ชีวิตเราจะงดงามเหมือนสวนที่ดูแลดี

อิสระที่แท้จริง

Tracy สรุปว่าการควบคุมตัวเองไม่ใช่การทรมานตัวเอง แต่เป็นการให้เสรีภาพแก่ตัวเอง

คนที่ควบคุมตัวเองไม่ได้จะกลายเป็นทาสของนิสัยเลว ทาสของหนี้สิน ทาสของโรคภัยไข้เจ็บ ทาสของความขี้เกียจ พวกเขามีเสรีภาพน้อย เพราะถูกสิ่งเหล่านี้ครอบงำ

แต่คนที่ควบคุมตัวเองได้จะมีเสรีภาพมาก พวกเขาสามารถเลือกได้ว่าจะทำอะไร จะไปไหน จะเป็นอะไร เพราะพวกเขาไม่ได้ถูกครอบงำโดยสิ่งใด

และนี่คือข้อความสำคัญที่สุดจาก Brian Tracy: “การควบคุมตัวเองคือกุญแจสู่ความสำเร็จ ความสุข และความเป็นอิสระในชีวิต เริ่มต้นได้ตั้งแต่วันนี้ เริ่มต้นได้ตั้งแต่เดี๋ยวนี้ และอย่าหาข้อแก้ตัวอีก!”

เรื่องราวของ Brian Tracy และหนังสือ “No Excuses!” สอนให้เรารู้ว่าทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ ไม่ว่าจะเริ่มต้นจากจุดไหน ไม่ว่าจะมีอุปสรรคอะไร สิ่งที่ต้องการคือความตั้งใจที่จริงจังและการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ

ชีวิตที่ดีไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เกิดจากการเลือกและการควบคุมตัวเองในแต่ละวัน การควบคุมตัวเองคือทักษะที่สามารถเรียนรู้และฝึกฝนได้ และเมื่อเราเชี่ยวชาญแล้ว มันจะเปลี่ยนชีวิตเราไปตลอดกาล

#hrรีพอร์ต

Posted in

Leave a comment