
OJT ย่อมาจาก On-the-Job Training
แปลตรงตัวคือ “การฝึกอบรมขณะปฏิบัติงานจริง”
หมายถึงวิธีการฝึกอบรมที่ให้พนักงานเรียนรู้จากการทำงานจริงในสถานที่ทำงานจริง โดยมีพี่เลี้ยง/หัวหน้างาน/วิทยากรภายในคอยสอน แนะนำ หรือให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด
วัตถุประสงค์ของ OJT
- เพื่อให้พนักงานใหม่เรียนรู้งานอย่างรวดเร็วจากสถานการณ์จริง
- เพื่อพัฒนาทักษะการทำงานให้ตรงกับตำแหน่งและสายการผลิต
- เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์จากพนักงานรุ่นเก่าสู่รุ่นใหม่
- ลดความผิดพลาดจากการเรียนรู้ด้วยตัวเอง
- ช่วยประหยัดต้นทุนในการฝึกอบรม
OJT นำไปใช้งานอย่างไร?
1. กำหนดหัวข้อการสอนงาน
- แยกเนื้อหาเป็นหมวดหมู่ เช่น ทักษะด้านเทคนิค ด้านความปลอดภัย หรือทักษะการประสานงาน
- จัดเรียงจากพื้นฐานไปถึงขั้นสูง
2. แต่งตั้งผู้สอนงาน (Trainer / พี่เลี้ยง)
- ควรเป็นผู้มีประสบการณ์ เข้าใจงาน และสามารถถ่ายทอดได้ดี
3. เตรียมเอกสารประกอบ
- เช่น คู่มือการปฏิบัติงาน, Checklist, แบบประเมิน, แผนผังการฝึก
4. ลงมือฝึกจริง
- พนักงานจะได้เรียนรู้จากสถานการณ์จริง มีคนแนะนำขณะปฏิบัติจริง
5. ติดตามผลและประเมิน
- ประเมินผลด้วยแบบสอบถาม, การสังเกต, หรือการทดลองทำจริง
- อาจใช้แบบประเมินก่อน-หลัง (Pre/Post Test) เพื่อดูพัฒนาการ
ตัวอย่างงานที่เหมาะกับการใช้ OJT
- สายการผลิต เช่น ช่างเทคนิค, วิศวกรซ่อมบำรุง
- ฝ่ายคลังสินค้า เช่น พนักงาน Forklift, แพ็คสินค้า
- งานบริการ เช่น พนักงานหน้าร้าน, ครัว
- พนักงานใหม่ในองค์กร ทุกตำแหน่ง
ตัวอย่าง แผนการสอนงาน (On-the-Job Training: OJT)
ตำแหน่ง: วิศวกรซ่อมบำรุง (Maintenance Engineer)
อุตสาหกรรม: โรงงานผลิตกระป๋องเครื่องดื่ม (Beverage Can Manufacturing)
ระยะเวลาฝึก: 2–3 เดือน (ปรับตามประสบการณ์)
| หัวข้อการสอนงาน | รายละเอียดที่ฝึกอบรม | ระยะเวลาโดยประมาณ |
| 1. แนะนำโรงงานและสายการผลิตกระป๋อง | – โครงสร้างองค์กร- เครื่องจักรในสายการผลิต เช่น Body Maker, Trimmer, Printer, Necking, Palletizer- จุดเสี่ยงในการทำงาน | 1 วัน |
| 2. ความปลอดภัยในการซ่อมบำรุง | – Lockout-Tagout (LOTO)- PPE สำหรับพื้นที่ผลิต- Work Permit ระบบร้อน/สูง/อับอากาศ- กรณีศึกษาอุบัติเหตุจริงในโรงงาน | 1 วัน |
| 3. การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (PM) | – ตรวจสอบตามรอบ (รายวัน/สัปดาห์/เดือน)- การบันทึก PM Report- การวางแผนและใช้ SAP/CMMS สำหรับงานซ่อม | 3 วัน |
| 4. ระบบไฟฟ้าและควบคุมอัตโนมัติ | – แผงควบคุมเครื่องจักร- พื้นฐาน PLC/SCADA ในสายผลิต- Sensor, Servo, Motor Control ในเครื่องผลิตกระป๋อง | 5 วัน |
| 5. ระบบนิวเมติกและไฮดรอลิก | – วิเคราะห์การทำงานของกระบอกลม, วาล์วควบคุม, ปั๊มไฮดรอลิก- การแก้ไขปัญหาเบื้องต้น- การควบคุมความดัน/การรั่วซึม | 3 วัน |
| 6. เครื่องจักรเฉพาะของกระบวนการผลิตกระป๋อง | – เครื่อง Body Maker และการตั้งค่า- เครื่องพิมพ์ (Dry Offset/Rotary Printer)- ระบบตรวจสอบคุณภาพอัตโนมัติ | 7 วัน |
| 7. การแก้ไขปัญหาเชิงวิเคราะห์ (Troubleshooting) | – วิเคราะห์ Root Cause (RCA)- การสังเกตเสียง/แรงสั่น/ความร้อนผิดปกติ- กรณีศึกษา Breakdown จริงในโรงงาน | 5 วัน |
| 8. การวางแผนและจัดการ Spare Parts | – การจัดเก็บอะไหล่สำรอง- การเบิกอะไหล่ตามระบบ- การคำนวณ Safety Stock | 2 วัน |
| 9. การประสานงานและสื่อสารกับทีมงาน | – การแจ้งงานซ่อมและสรุปผลกับฝ่ายผลิต- การสื่อสารระหว่างกะ- การนำเสนอแผน PM ต่อหัวหน้าและทีม | 2 วัน |
| 10. การประเมินผลและพัฒนาเพิ่มเติม | – แบบประเมินทักษะก่อน-หลังฝึก- แบบสอบถามความพึงพอใจ- สรุปข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาต่อเนื่อง | 1 วัน |
#hrรีพอร์ต
Leave a comment