
หลายคนมักใช้คำว่า “สัญญา” และ “ข้อตกลง” แทนกันได้ แต่จริงๆ แล้ว ทั้งสองคำมีความหมายและความสำคัญที่แตกต่างกัน
ข้อตกลง คือความเข้าใจร่วมกันระหว่างสองฝ่ายหรือมากกว่า ซึ่งอาจเป็นเพียงการตกลงกันด้วยวาจาก็ได้
สัญญา คือข้อตกลงที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย ซึ่งสามารถบังคับใช้ได้ตามกฎหมาย
สัญญาคืออะไร?
สัญญาคือข้อตกลงที่มีผลทางกฎหมายระหว่างสองฝ่ายหรือมากกว่า โดยมีข้อผูกพันที่สามารถฟ้องร้องหรือบังคับตามกฎหมายได้ ซึ่งสัญญาที่ถูกต้องตามกฎหมายจะต้องมีองค์ประกอบ 6 อย่างดังนี้:
- การเสนอ – ข้อเสนอที่ชัดเจนพร้อมเงื่อนไข
- การยอมรับ – การตอบรับข้อเสนอโดยไม่มีข้อแม้
- การรับรู้ – ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกันในเงื่อนไขต่างๆ
- ผลตอบแทนหรือสิ่งมีค่า (Consideration) – เช่น เงิน บริการ หรือคำมั่นสัญญา
- ความสามารถทางกฎหมาย – ทุกฝ่ายต้องมีสิทธิ์ในการทำข้อตกลง
- ความชอบด้วยกฎหมาย – จุดประสงค์ของสัญญาต้องไม่ผิดกฎหมาย
ข้อตกลงคืออะไร?
ข้อตกลงคือความเข้าใจร่วมกัน อาจเป็นเพียงการตกลงใจว่าจะทำอะไรบางอย่างร่วมกัน โดยไม่จำเป็นต้องเป็นทางการเสมอไป
ข้อตกลงมีได้ทั้งแบบ:
- ไม่เป็นทางการ เช่น การคุยตกลงกันด้วยวาจาหรือการจับมือกัน
- เป็นทางการ เช่น เอกสารที่ระบุรายละเอียดชัดเจน
ตัวอย่างเอกสารที่อาจเป็นข้อตกลง:
- หนังสือแสดงเจตจำนง (LOI) – แสดงความตั้งใจในการเจรจา
- บันทึกความเข้าใจ (MOU) – ใช้ในความร่วมมือระหว่างองค์กร
- ข้อตกลงไม่เปิดเผยข้อมูล (NDA) – มักมีผลผูกพันตามกฎหมาย
ทำไมต้องแยกแยะความแตกต่างระหว่างสัญญากับข้อตกลง?
- การบังคับใช้ – สัญญาสามารถบังคับตามกฎหมายได้ ขณะที่ข้อตกลง (โดยเฉพาะแบบไม่เป็นทางการ) มักทำได้ยาก
- การจัดการความเสี่ยง – ถ้าไม่แยกแยะให้ชัด อาจนำไปสู่ปัญหาและข้อขัดแย้ง
- ความชัดเจนและการป้องกัน – การเขียนข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรช่วยลดความเข้าใจผิด และถ้าจำเป็นต้องมีผลทางกฎหมาย ควรจัดทำให้เป็นสัญญาที่ถูกต้องตามหลักกฎหมาย
ตัวอย่างสถานการณ์
กรณีที่ 1:
ลิซ่าจ้างบริษัททาสีมาทาสีบ้าน โดยมีการเซ็นสัญญาชัดเจน ระบุราคาค่าจ้าง 1,000 ดอลลาร์ วันเสร็จงาน และรายละเอียดสี แต่ไม่มีใครมาทำงานตามนัด และไม่ติดต่อกลับ
➡ ลิซ่าสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้ เพราะนี่คือ สัญญา ที่มีผลตามกฎหมาย
กรณีที่ 2:
ลิซ่าคุยกับบริษัททาสีทางโทรศัพท์และนัดหมายให้มาตีราคา แต่บริษัทไม่มาตามนัด
➡ นี่เป็นเพียง ข้อตกลง เบื้องต้น ยังไม่มีผลตามกฎหมาย ลิซ่าจึงเรียกร้องค่าเสียหายไม่ได้
เมื่อไรควรใช้ข้อตกลง และเมื่อไรควรใช้สัญญา?
ข้อตกลง เหมาะกับ
- กรณีความเสี่ยงต่ำ
- ความสัมพันธ์ที่เชื่อใจกัน
- ระยะเริ่มต้นของการเจรจา
สัญญา เหมาะกับ:
- ธุรกรรมที่มีเงินจำนวนมาก
- ข้อตกลงที่มีความซับซ้อน
- ต้องการความคุ้มครองทางกฎหมายในกรณีมีข้อขัดแย้ง
วิธีเปลี่ยนข้อตกลงให้เป็นสัญญา
- ระบุข้อเสนออย่างชัดเจน
- ต้องมีการตอบรับที่ตรงประเด็น
- แสดงสิ่งที่แต่ละฝ่ายจะให้ตอบแทนกัน
- ทุกฝ่ายต้องมีสิทธิตามกฎหมาย
- จุดประสงค์ของข้อตกลงต้องไม่ผิดกฎหมาย
- ควรขอคำปรึกษาจากฝ่ายกฎหมายเพื่อความถูกต้อง
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
อีเมลสามารถเป็นสัญญาได้หรือไม่?
ได้ ถ้ามีองค์ประกอบครบ เช่น การเสนอ การตอบรับ ผลตอบแทน ฯลฯ
ข้อตกลงมีผลตามกฎหมายไหม?
อาจมีหรือไม่มี ขึ้นอยู่กับว่าข้อตกลงนั้นมีองค์ประกอบของสัญญาครบหรือไม่
เซ็นข้อตกลง = สัญญาใช่ไหม?
ไม่เสมอไป ถ้าไม่มีองค์ประกอบของสัญญา ก็อาจไม่ถือว่ามีผลตามกฎหมาย
ใครบ้างที่ไม่สามารถทำสัญญาได้?
- ผู้เยาว์ (อายุต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด)
- บุคคลที่ศาลพิจารณาว่าไร้ความสามารถทางจิต
ตารางเปรียบเทียบระหว่าง “สัญญา” กับ “ข้อตกลง”
| ประเด็นเปรียบเทียบ | สัญญา (Contract) | ข้อตกลง (Agreement) |
| ความหมาย | ข้อตกลงที่มีผลผูกพันตามกฎหมาย | การเข้าใจหรือยินยอมร่วมกันระหว่างสองฝ่ายหรือมากกว่า อาจไม่มีผลทางกฎหมาย |
| สถานะทางกฎหมาย | มีผลทางกฎหมาย สามารถบังคับใช้หรือฟ้องร้องได้ | อาจมีหรือไม่มีผลทางกฎหมาย ขึ้นอยู่กับบริบทและองค์ประกอบของข้อตกลง |
| รูปแบบ | ต้องมีองค์ประกอบที่ครบถ้วนตามกฎหมาย (เช่น การเสนอ การตอบรับ สิ่งตอบแทน ฯลฯ) | อาจเป็นทางการหรือไม่เป็นทางการก็ได้ เช่น คุยกันปากเปล่าหรือส่งอีเมล |
| ความผูกพัน | มีความผูกพันที่ชัดเจนและฟ้องร้องได้ตามกฎหมาย | ความผูกพันขึ้นอยู่กับความสมัครใจ อาจไม่มีผลทางกฎหมาย |
| เหมาะสำหรับ | ธุรกรรมที่มีความเสี่ยงสูง มีจำนวนเงินมาก หรือมีความซับซ้อน | การเริ่มต้นเจรจา ความร่วมมือทั่วไป หรือเรื่องที่มีความเสี่ยงต่ำ |
| การบังคับใช้ในชั้นศาล | สามารถใช้เป็นหลักฐานและฟ้องร้องได้ | มักไม่สามารถใช้บังคับในศาล เว้นแต่มีองค์ประกอบครบตามกฎหมาย |
| ต้องมีสิ่งตอบแทน (Consideration) | ต้องมีเสมอ | อาจไม่มีสิ่งตอบแทนก็ได้ |
| การมีผลผูกพันทางกฎหมาย | มีเสมอถ้าองค์ประกอบครบ | มีหรือไม่มีขึ้นอยู่กับบริบทและเงื่อนไข |
| ตัวอย่างเอกสาร | สัญญาซื้อขาย, สัญญาจ้างงาน, สัญญาเช่า | หนังสือแสดงเจตจำนง (LOI), ข้อตกลงไม่เปิดเผยข้อมูล (NDA), บันทึกความเข้าใจ (MOU) |
เรียบเรียงจาก: https://www.contractsafe.com/blog/contract-vs-agreement
#hrรีพอร์ต
Leave a comment