
คดีนี้ นายจ้างกับลูกจ้างมีปัญหาเรื่องการจ่ายเงินชดเชยตอนเลิกจ้าง โดยมีประเด็นว่า เงิน “จูงใจ” หรือค่าคอมมิชชั่นที่นายจ้างจ่ายให้ลูกจ้าง ควรนับเป็น ค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน หรือไม่
ศาลฎีกาชี้ชัดว่า แม้เงินจูงใจนี้จะคำนวณจากผลงาน เช่น ยอดขายรายเดือน ไตรมาส หรือรายปี แต่เงินดังกล่าว ไม่ใช่ค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน มาตรา 5 เพราะ…
- นายจ้างจ่ายเงินเดือนปกติ ให้ลูกจ้างอยู่แล้ว เป็นค่าตอบแทนการทำงานตามปกติ
- ส่วนเงินจูงใจ จ่ายเฉพาะคนที่ทำยอดขายถึงเป้า เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ขายเก่งขึ้น
- ถ้ายอดขายไม่ถึงเป้า ก็ไม่ได้รับ และ เงินนี้ไม่แน่นอน เปลี่ยนแปลงได้ทุกปีตามหลักเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด
ดังนั้น เงินจูงใจนี้ ไม่ใช่ค่าจ้างตาม พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 5 นายจ้างจึง ไม่ต้องนำมาคิดรวมเพื่อจ่ายค่าชดเชยตอนเลิกจ้าง
คำสั่งของพนักงานตรวจแรงงานที่ให้บริษัทจ่ายค่าชดเชยเพิ่ม โดยนับรวมเงินจูงใจเข้าไปด้วยนั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลจึงพิพากษาให้บริษัทชนะคดี
สรุป
เงินจูงใจหรือคอมมิชชั่นตามเป้ายอดขาย “ไม่ใช่ค่าจ้าง” นายจ้าง ไม่ต้องนำมาคิดรวมค่าชดเชย ตอนเลิกจ้าง เพราะจ่ายเพื่อกระตุ้นยอดขาย ไม่ใช่ตอบแทนงานปกติ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๒๒๔๖/๒๕๔๘ (คอมมิชชั่นเป็นเงินจูงใจ)
#hrรีพอร์ต
Leave a comment