สถานการณ์เบื้องต้น

นาย ก. เริ่มทำงานกับบริษัทเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2554 ในตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้างาน โดยได้รับเงินเดือน 14,793 บาท ต่อมาเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2557 บริษัทได้เลิกจ้างเขา

เหตุแห่งการเลิกจ้าง

บริษัทให้เหตุผลว่านาย ก. กระทำความผิดร้ายแรง โดยใช้กำลังทำร้ายร่างกายพนักงานหญิง (นางสาว ก.) ในโรงอาหาร การกระทำดังกล่าวประกอบด้วย:

– กระชากผม

– ตบหน้า 

– เตะท้อง

กระบวนการทางกฎหมาย

ศาลแรงงานกลาง

– พิจารณาว่าการกระทำของนาย ก. เป็นความผิดร้ายแรงตามข้อบังคับบริษัท

– ตัดสินยกฟ้อง

– ปฏิเสธสิทธิการรับโบนัสเนื่องจากถูกเลิกจ้างก่อนสิ้นปี

การอุทธรณ์ของนาย ก.

นาย ก. อุทธรณ์โดยให้เหตุผลว่า:

– เหตุการณ์เกิดก่อนเวลางาน

– หัวหน้างานได้ตักเตือนด้วยวาจาแล้ว

ศาลฎีกา

– ยืนยันคำตัดสินเดิม

– ชี้แจงว่าข้อบังคับวินัยไม่ได้จำกัดเฉพาะการกระทำในเวลาทำงาน

– เห็นว่าการกระทำของนาย ก. เป็นการละเมิดวินัยร้ายแรง

– การตักเตือนด้วยวาจาไม่ถือเป็นการลงโทษ

บทสรุป

ศาลยังคงยืนยันคำตัดสินเดิม โดยเห็นว่าการอุทธรณ์ของนาย ก. เป็นเพียงการโต้แย้งข้อเท็จจริง ซึ่งไม่อาจอุทธรณ์ได้ตามกฎหมายแรงงาน

บทเรียนจากเหตุการณ์

กรณีนี้สะท้อนให้เห็นความสำคัญของการประพฤติตนอย่างเหมาะสมทั้งในและนอกเวลาทำงาน รวมถึงการเคารพเพื่อนร่วมงานและชื่อเสียงขององค์กร

อ้างอิงจาก คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๓๕๗๗/๒๕๖๑ (ทำร้ายร่างกายเพื่อนร่วมงาน มิได้เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง)

#hrรีพอร์ต

Posted in

Leave a comment